วันพุธที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

สามัญเวียดนาม

วิถีชีวิตเล็ก ๆ อันปกติสามัญของคนเวียดนาม
 แต่ที่มันแปลกเพราะ แ ต ก ต่ า ง จากบ้านเรา
 บางเรื่องเก็บเกี่ยวมาจากประสบการณ์ตรง บางเรื่องฟังมาจากเพื่อนชาวเวียดนาม
บอกไม่ได้ว่าจริง-เท็จแค่ไหน เพราะฉะนั้นแนะนำให้อ่านแบบชิลล์ๆ ไม่ซีเรียสนะจ๊ะ ;)
ตรงไหนไม่จริงบอกได้นะ
 
ยาวไปไม่อ่าน...อ่านไปไม่ยาว

 ★ 

 คนเวียดนามมีความขยันขันแข็ง อดทน ไม่ชอบอยู่นิ่ง ถึงจะไม่มีอะไรทำก็จะหาอะไรมาทำ เช่น เล่นกีฬา ทำสวน เม้าท์มอย ทำกับข้าวแจกเพื่อนบ้าน ขี้เหงาว่างั้นเถอะ
 
 คนเวียดนามหน้าตาบึ้งตึงเพราะในอดีตผ่านสงครามที่หนักหนาจึงเกิดความเคร่งเครียด แต่ถ้าได้คุยจะรู้ว่าพวกเขาไม่ได้อัธยาศัยแย่เท่าไหร่นะ
 
 คนเวียดนามดื่มน้ำชาต่างน้ำเปล่า
 
 ร้านอาหารใหญ่ ๆ ในเวียดนามจะเสิร์ฟน้ำแบบสากล คือให้เลือกระหว่างชาหรือกาแฟ แต่ร้านทั่วไปเสิร์ฟแค่ชา
 
 คนเวียดนามชอบกินกาแฟดำมาก และถ้าดื่มกาแฟดำมากจะทำให้เมา (ก๊งเหล้าในไทยคือก๊งกาแฟในเวียดนาม)
 
 ที่เวียดนามมีร้านกาแฟเยอะมาก และเป็นที่นิยมมาก บางร้านมีสาวเชียร์กาแฟด้วย (เหมือนสาวเชียร์เบียร์)
 
 คนเวียดนามนิยมกินอาหารนอกบ้าน แต่ร้านอาหารที่เวียดนามขายอาหารแพงกว่าไทยเท่าตัวหรือมากกว่า
 
 คนเวียดนามไม่กินอาหารรสจัด และกินผักเป็นชีวิตจิตใจ ชอบกินขิงสุด ๆ
 
 แม้อากาศในภาคเหนือจะไม่ค่อยเย็นแต่คนทางภาคเหนือบางคนชอบกินหมาเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น
 
 ทำให้คนเวียดนามเหนือลงมาที่ทางใต้ เพื่อทำอาชีพ 'ขโมยหมา'
 
 หมาตัวเล็กเอาไว้ขายเลี้ยง แต่หมาตัวใหญ่เอาไว้ขายกิน
 
 เราจะไม่ค่อยเห็นหมาตามท้องถนนเพราะเจ้าของจะเลี้ยงไว้ในบ้าน
 
 ถ้าเจ้าของมาพบระหว่างขโมยหมาอาจถูกตีถึงตาย
 
★ หมาขนสีน้ำตาลราคาแพงมากเพราะเค้าถือว่าเป็นสีทอง
 
ก๋วยเตี๋ยวบางร้านใช้เนื้อหมาทำลูกชิ้น สังเกตป้ายให้ดีก่อนเข้าร้าน
 
★ 'เฝอ' หรือก๋วยเตี๋ยวเวียดนามที่แสนเลื่องลือ บอกเลยว่าอร่อยไม่เสียชื่อ ฟันเฟิร์ม !
 
'บั๋นหมี่' หรือขนมปังฝรั่งเศสเป็นที่นิยมในเวียดนามมาก มีร้านตั้งขายเยอะมากเหมือนชายสี่
 
 ขนมปังมีเนื้อนิ่มไม่แข็งเหมือนบ้านเรา (อร่อยฝุด ๆ ใครไปต้องลอง ไม่ลองคือพลาดมาก)
 
 ขนมกรุบกรอบที่เวียดนามนำเข้าจากไทยมีราคาแพงกว่าที่ไทยหลายเท่า
 
 คนเวียดนามชอบโยเกิร์ตมาก ทุกบ้านจะต้องมีโยเกิร์ตติดไว้ตลอด เอาไว้กินบ้าง พอกหน้าบ้าง ทำกับข้าวบ้าง แล้วแต่ความประสงค์
 
 คนเวียดนามรักการบำรุงผิวและผมมาก
 
 ผู้ใหญ่และคนแก่ส่วนมากหัวโบราณสุดโต่ง
 
 คนเวียดนามมองว่าประเทศไทยมีอิสระพอ ๆ กับอเมริกา
 
 รองเท้าแตะเวียดนามเป็นรองเท้าเพื่อสุขภาพ ขนาดใหญ่เทอะทะ (ไม่รู้มันเรียกอะไร ที่มันมีตีนตุ๊กแกรัดเยอะ ๆ อะ)
 
 คนเวียดนามแต่งตัวเชย (มาก) ใครที่แต่งตัวสวยจะถือว่าเป็นผู้นำแฟชั่น แต่ผู้ใหญ่ไม่ชอบ (แต่งตัวสวยของเค้าคือธรรมดา ๆ ของบ้านเรา)
 
 เสื้อแฟชั่นที่เวียดนามราคาแพงกว่าไทยเกินสองเท่าตัว
 
 เสื้อผ้าแฟชั่นทันสมัยของเวียดนาม สำหรับไทยตอนนี้จัดว่าเป็นชุดของเด็กเสี่ยว
 
 เช่นเดียวกับเสื้อผ้า ทรงผมเวียดนามตอนนี้ ผู้ชายฮิตย้อมหัวทอง ทรงรากไทร ขณะที่ไทยเราตอนนี้ถือเป็นเด็กเสี่ยว
 
 ผู้ใหญ่เวียดนามเข้มงวดกับลูกหลานมาก จะต้องทำตามกฎที่ตั้งขึ้นอย่างเคร่งครัด เช่น ต้องเรียนให้เก่ง ห้ามใส่กางเกงสูงกว่าเข่า ห้ามย้อมสีผม ห้ามไปเที่ยว บลาบลาบลา...
 
 เด็กเวียดนามเรียนหนักมาก เด็กคนไหนไม่เรียนพิเศษ...เอาท์ค่ะ
 
 หลักสูตรการเรียนของเวียดนามก้าวหน้ากว่าไทย เด็กเวียดนาม IQ สูงกว่าเด็กไทย
 
 นักเรียน-นักศึกษามักจะใส่รองเท้าแตะไปเรียน
 
★ วัยรุ่นเวียดนามไม่มีโทรศัพท์มือถือ ถึงมีก็จะเก็บไว้บ้านเพราะยังไงก็ไม่มีเพื่อนใช้ ส่วนใหญ่เริ่มใช้ช่วงปลายมหาลัย
 
 เวียดนามเพิ่งเริ่มมีกระแสฮิต BB ได้ไม่นาน ส่วนกลุ่มที่ใช้ iPhone ส่วนมากมีแต่คนรวยวัยทำงาน
 
 คนเวียดนามบางคนชอบลืมตัวใส่หมวกกันน็อคขึ้นรถเมล์บ้าง เข้าห้างบ้าง แต่คนรอบข้างก็ไม่ได้ใส่ใจ (เป็นไทยเราสิ่ โดนหมาต๋ารวบแน่นอน)
 
 ชุดนอนคนเวียดนามมีสีสันฉูดฉาด ส่วนใหญ่นิยมใส่ลายดอก (ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย)
 
★ พวกเขาใส่ชุดนอนต่างชุดอยู่บ้าน สามารถใส่ออกไปข้างนอก ไปออกกำลัง ไปเดินห้างอย่างเป็นปกติสามัญ
 
 คนเวียดนามรักษาผิวมาก จะต้องมีถุงแขน ถุงขา ผ้าปิดจมูก ไว้กันแดดเวลาออกไปข้างนอกเสมอ แม้แต่ที่ใกล้ ๆ
 
 คนเวียดนามส่วนมากไม่ยอมรับเพศที่สาม
 
 คนเวียดนามส่วนมากเริ่มมีแฟนตอนทำงานแล้ว
 
 คนเวียดนามมีอายุยืน ครอบครัวใหญ่ ๆ มีถึงรุ่นทวดเกือบทุกบ้าน
 
 คนเวียดนามถือระบบอาวุโสมาก ต้องเคารพเชื่อฟังกัน
 
 คนเวียดนามเคารพนับถือ 'โฮจิมินห์' มาก อย่าได้เผลอพูดดูหมิ่นเด็ดขาด (เปรียบเหมือนพ่อหลวงของไทยนั่นแหละ)
 
 คนเวียดนามเรียก "ลุงโฮ"
 
 ตามสวนสาธารณะ จะมีร้านขายน้ำอ้อยสดหลายร้าน
 
 ละครไทย ญี่ปุ่น หรือเกาหลีที่นำไปฉายในเวียดนามบางเรื่องจะใช้เสียงแปลพากย์ทับ โดยหรี่เสียงเดิมให้เบาพอได้ยิน (ตอนออยไป มีเรื่องสงครามนางฟ้าพอดี ดูแล้วเสียอารมณ์)
 
กราวน์โฮสเตส(แอร์กราวน์) มีรายได้และตำแหน่งสูงกว่าแอร์โฮสเตส
 
★ ไม่รู้จริงเปล่า เพื่อนเวียดนามบอกว่าคนที่มีเส้นสายมักจะใช้เส้นเพื่อเป็นพนักงานขายตั๋วเครื่องบิน (...)
 
 ไม้ดัดเวียดนามสวยมาก
 
 คนเวียดนามนิยมตกแต่งบ้านตัวเองให้สวยหรู พวกเค้าทุ่มทุนต่อการสร้างบ้านมาก
 
 บ้านทุกหลังจะมีธงชาติเวียดนามประดับไว้ ส่วนมากประดับไว้หน้าบ้าน
 
 บ้านส่วนมากจะมี 3-4 ชั้น เป็นบ้านลักษณะแบบตึกแถว
 
 บ้านที่เวียดนามเป็นบ้านปลูกเอง พวกเขาเคร่งเรื่องที่ดินมาก จะไม่มีการล้ำอาณาเขตกันเด็ดขาด
 
 ห้องที่สำคัญที่สุดในบ้านคือห้องรับแขก เพราะถือว่าเมื่อแขกเปิดประตูเข้ามาจะต้องเห็นห้องนี้เป็นห้องแรก ถือเป็นหน้าเป็นตาของบ้าน
 
 ห้องครัวจะอยู่ชั้น 2 ของบ้าน เพราะถือเป็นส่วนที่แขกไม่ควรเห็น
 
 บ้านเกือบทุกหลังจะมีห้องพระสำหรับวางโต๊ะบูชาบรรพบุรุษขนาดเล็กอยู่ชั้นบนสุดของบ้าน จะเปิดไฟสีแดงไว้ตอนกลางคืน
 
 เพราะไม่นิยมใช้รถ บ้านไหนไม่มีรถก็ไม่ทำที่จอดรถ แต่ทำที่จอดมอเตอร์ไซค์แทน (กว้างขนาด 2/5 ของที่จอดรถ)
 
 ประเทศเวียดนามค่าครองชีพสูง
 
 รถที่เวียดนามมีภาษีนำเข้าและภาษีต่อปีสูงมาก รถจึงราคาแพงสุด ๆ บ้านไหนมีรถนับว่ารวย
 
 แต่ละบ้านในเวียดนามจะต้องมีรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอย่างน้อยหนึ่งคัน
 
 คนเวียดนามนิยมขับจักรยาน และมอเตอร์ไซค์ ทุกคนจะต้องใส่หมวกกันน็อค เค้าไม่ถือว่าเป็นกฎเกณฑ์ เพราะทำจนเคยชิน
 
 มอเตอร์ไซค์คันนึง คนเวียดนามสามารถนั่งได้หลายคน (เคยเห็นซ้อนกัน 8 คนด้วย ...พยายาม)
 
 คนเวียดนามสามารถขนของขนาดใหญ่หรือจำนวนมากด้วยมอเตอร์ไซค์เพียงคันเดียว (ย้ำว่ามากจริง ๆ ...โคตรคุ้มค่า...)
 
คนเวียดนามไม่ค่อยมีรถยนต์ส่วนตัว เวลาไปไหนมาไหนหลายๆ คนจึงนิยมนั่งรถแท็กซี่หรือรถเมล์
 
เทียบอัตราส่วนจำนวนรถ ถ้ามีรถ 10 คัน จะมีรถยนต์เพียง 1 คันที่เหลือคือมอเตอร์ไซค์ และ 4 ใน 5 ของรถยนต์นั้นคือรถแท็กซี่
 
 คนขับรถแท็กซี่และรถเมล์ของเวียดนามช่างจ้อ
 
 บางทีคนเวียดนามก็คล้ายคนจีนคือชอบพูดกระโชกโฮกฮากแต่ความจริงไม่มีอะไร
 
 กฎหมายจราจรเวียดนามเข้มงวดเรื่องจำกัดความเร็วมาก รู้สึกเมืองใหญ่จะจำกัดที่ 40 กม./ชม.
 
 คนเวียดนามเคารพและเคร่งครัดกฎหมายพื้นฐานสุด ๆ โดยเฉพาะกฎหมายจราจร ใครฝ่าฝืนโดนปรับหนัก 
 
การจะไปที่ไหนสักที่ด้วยรถโดยสารประจำทางใช้เวลานานมากเพราะรถขับช้า แต่คนที่ยืนโหนรถเมล์ก็เหมือนจะไม่เมื่อยกันเลยสักนิด
 
 เฉพาะถนนเส้นหลักหรือต้องใหม่จริง ๆ จึงจะมีสัญญาณไฟจราจร ซึ่งมีน้อยมากกกก
 
 การจราจรในเวียดนามเป็นแบบ "เวียดนามมีน้ำใจ เธอไปเลย ฉันให้แซง"
 
 เพราะมีน้ำใจม๊ากมาก ผู้ขับขี่จึงขับกันอย่างสับสนอลหม่าน ขับปาดซ้ายแซงขวาเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ แต่อุบัติเหตุกลับน้อยมาก (...พี่แกมากับดวง)
 
 บนท้องถนนในเวียดนามจะมีเสียงแตรตลอดเวลา ไม่ใช่เพื่อต่อว่าแต่เป็นการบอกให้รู้ว่า "ฉันกำลังจะแซง เธออย่าเปลี่ยนเลนนะ" ซึ่งช่วยลดอุบัติเหตุได้ดีมาก (แต่เป็นมลภาวะทางเสียงโคตร)
 
 เวลาข้ามถนนต้องเดินไปเรื่อย ๆ หลับตาเดินยังได้เลย คนขับจะหักหลบโดยอัตโนมัติแต่ห้ามหยุด ชะลอ หรือถอยกลับเด็ดขาด
 
 ถึงจะมีทางม้าลายก็เหมือนไม่มี ทางม้าลายไม่มีความหมายสำหรับคนเวียดนาม
 
 เวียดนามไม่มีทางต่างระดับ และเส้นทางจราจรเกือบทั้งหมดเป็นแบบวันเวย์
 
 เวียดนามมีแต่รถไฟธรรมดา ไม่มีรถไฟฟ้า
 
 รถไฟฟ้ากำลังสร้าง แต่สร้างช้ามากกกกกก
 
 การคมนาคมในเวียดนามค่อนข้างย่ำแย่ในหลายด้าน
 
 สาเหตุข้างบนส่วนหนึ่งมาจากการคอรัปชั่น (เยอะตามหลังไทยอยู่หน่อย)
 
 พ่อค้าแม่ขายหลายเจ้าตั้งราคาสินค้าสูงกว่าความเป็นจริงมาก แต่กลับไม่มีการตรวจสอบอย่างจริงจัง เอ๊ะทำไมน๊า
 
 ห้างที่เวียดนามส่วนมากจะมีเพียงสองชั้น ห้างใหญ่ ๆ ก็มีนะ แต่คนนิยมไปห้างเล็กมากกว่า
 
 ห้างในเวียดนามเพิ่งมีการสร้างลิฟต์และบันไดเลื่อนมาไม่กี่ปี คนแก่และเด็กหลายคนจึงไม่กล้าใช้ (ถ้าจะใช้ก็ต้องมีคนขึ้นไปเป็นเพื่อนด้วย)
 
 เวียดนามเพิ่งเปลี่ยนจากฮิตญี่ปุ่นเป็นเกาหลีได้ไม่นาน เหมือนไทยที่เมื่อก่อนเคยฮิตญี่ปุ่นแล้วมาเกาหลีฟีเวอร์ในปัจจุบัน
 
 เพลงวัยรุ่นของเวียดนามยังมีเสียงผสมลูกทุ่งเหมือนเพลงวัยรุ่นเราสมัยก่อน
 
 ลอตเตอรี่ออกทุกวัน (แต่เงินไม่มากเท่าไหร่)
 
 ก่อนที่จะเป็นเมืองขึ้นฝรั่งเศส เวียดนามเคยเป็นเมืองขึ้นอเมริกา แต่พวกคนแก่จะเกลียดชาวอเมริกามากกว่าชาวฝรั่งเศสเพราะสมัยสงคราม ถึงจะเป็นเมืองขึ้นแต่ฝรั่งเศสก็มาสร้างนู่นนี่ให้เจริญขึ้นบ้าง แต่อเมริกาดีแต่ทำลายและคร่าชีวิตญาติพี่น้องพวกเขา
 
 ★ 
 
Repost: 06.03.2014

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น