วันพฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2559

[Anime Review] The Girl Who Leapt Through Time กระโดดจั้มพ์ ทะลุข้ามเวลา

หลังจากที่เคยเกริ่นไว้ว่าจะรีวิวเรื่อง Buddha เจ้าชายที่โลกไม่รัก ใน 2-3 เอนทรี่ที่แล้ว
แต่เวลาออกไปข้างนอกกลับลืมแวะร้าน DVD ทุกที (อีตอนไม่ลืม พอไปแล้วมันไม่มีง่ะ) วันนี้ก็เลยไปหาดูออนไลน์
แต่ปรากฏว่าหาพาร์ทต่อไม่เจอ ดูไปแค่ 2/4 (´-ω-`) ก็เลยตัดใจรอซื้อแผ่นแล้วไปหาเรื่องอื่นดูแทน
ก็ไปเจอเรื่องที่กะว่าจะดูตั้งแต่หลายปีที่แล้ว แต่ช่วงนั้นติดซีรี่ย์เกาหลีก็เลยไม่ได้ดูสักที
นั่นก็คือเรื่อง The Girl Who Leapt Through Time (Toki wo Kakeru Shoujo) กระโดดจั้มพ์ ทะลุข้ามเวลา
อนิเมะมูฟวี่ค่ายแมดเฮาส์สตูดิโอส์ กำกับโดย มาโมรุ โฮโซดะ ที่สร้างชื่อ Summer Wars อันแสนโด่งดัง
 
ฝากรูปฝากรูป
 
คอนโนะ มาโคโตะ เด็กสาววัย 17 ผู้มีคาแร็คเตอร์โหลๆ เป็นธรรมชาติ สดใส ซื่อบื้อ ซุกซน ซุ่มซ่าม ก๋ากั่น
เธอมีเพื่อนสนิทชายสองคนคือ โคสุเกะ และ ชิอากิ ทั้งสามชอบเล่นแคชบอลด้วยกันเสมอ
มาโคโตะใช้ชีวิตทุกๆ วันอย่างสงบสุข สนุกสนาน แม้จะมีเรื่องวุ่นวายบ้าง(เกิดจากตัวเธอเอง)
วันหนึ่งมาโคโตะได้พลังในการกระโดดข้ามเวลามาโดยบังเอิญ
ทั้งที่จริงๆ แล้วมาโคโตะต้องประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตแต่เธอกลับย้อนไปในอดีตและรอดชีวิตมาได้
เมื่อได้รู้แน่ชัดแล้วว่าตัวเองมีพลังย้อนเวลา เธอจึงนำมาใช้อย่างสนุกสนาน
มาโคโตะกระโดดย้อนเวลากลับมาแก้ไขสิ่งที่ทำผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
จนกระทั่งเธอค้นพบว่าทุกสิ่งที่เปลี่ยนไปไม่สามารถย้อนคืนมาได้ ...
 
ฝากรูป
ฝากรูป
ฝากรูป
 
เรื่องนี้จะเน้นเรื่องราวความรักหลายเส้า ก็คงจะเดากันได้ว่าเป็นเจ้าเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อทั้งสองที่แอบรักมาโคโตะ
เมื่อมาโคโตะรู้ความจริงแล้วก็ต้องตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรดี
พลังกระโดดข้ามเวลาจึงเป็นไอเท็มพิเศษของเกมรักครั้งนี้ แต่เพราะเธอเป็นคนหัวทึบ ซื่อบื้อ
จึงใช้แก้ปัญหาแบบโง่ๆ มึนๆ (ดูแล้วก็หมั่นไส้ อีนี่อุตส่าห์มีคนหล่อมารุมรัก ทำไมไม่รวบเบิ้ลฟระ /me เผ่น)
ความรู้สึกตอนดู ทั้งที่ไม่ใช่ไคลแม็กซ์แต่ก็กดดัน บีบคั้นสุดๆ เลยค่ะ (ออยร้องไห้ตั้งแต่ต้นเรื่องอ่ะ เซ้นซีทีฟ = =)
เราไม่สามารถเดาได้เลยว่าเรื่องจะดำเนินไปยังไงต่อ จะจบยังไง ใครจะได้เป็นพระเอก
จะแบดเอนด์มีใครตาย หรือนางเอกจะต้องโดดเดี่ยว (ตอนแรกออยคิดว่าจะเป็นอย่างหลังสุด โล่งอกไปที)
 
ฝากรูป
ฝากรูป
 
ส่วนตัวประทับใจเรื่องนี้มากค่ะ โดนใจยิ่งกว่างานฟีลใกล้เคียงกันอย่างของ อ.มาโคโตะ ชินไค ซะอีก
คิดว่าเป็นแนววิทยาศาสตร์, Slice of Life, School Life, Drama รวมๆ กัน (ของ อ.ชินไค แกเน้นดราม่าหนักๆ)
ดูแล้วผูกพันกับตัวละคร มีแทรกมุกแบบกลมกลืน ออกแบบคาแร็คเตอร์ทั้งตัวหลัก ตัวรอง ตัวประกอบได้ไม่ดีมากแต่ก็โอเค
ชอบนางเอกที่ถึงจะงี่เง่าบ้างแต่ก็มีพัฒนาการไปอย่างช้าๆ ดูแล้วผูกพันกับเธอที่สุดเลยล่ะ
ด้านภาพก็งามตามเคยอย่างไม่ต้องสงสัย ดูแล้วสบายตา ลายเส้นไม่หยาบดีค่ะ
เพลงประกอบก็เพราะมาก อินและได้ฟีล Kawara nai Mono และ Garnet ร้องโดย Oku Hanako
เอ้อ แอบกระซิบว่าชอบน้องนางเอกม๊ากมาก จิ้นคู่กับพี่สาวเลยอ่ะ ทั้งที่ปกติไม่ใช่สายจิ้นยูริ จิ้นแต่ยาโอยนะ แฮะๆ
แต่ยังไงที่ปลื้มที่สุดก็ต้องพระเอกนี่แหละ ไม่บอกหรอกว่าใครต้องลุ้นเอง
แอบเคืองนางเอกตอนกลางเรื่อง ที่เกือบทำให้อนาคตอีกแบบหนึ่งพระเอกจะได้คู่คนอื่น
 
ฝากรูป
 
เรื่องนี้มีฉบับมังงะอยู่ 2-3 แบบ ว่างๆ จะไปอ่านซับอิ้งดู พระเอกหล่อโฮก นางเอกก็น่ารัก เสียดายเล่มเดียวจบ
 
 
Toki wo Kakeru Shoujo - Tokikake ลายเส้นโดย อ.โคโตเนะ รันมารุ
ผู้วาด Blood-C  มังงะจากอนิเมะและมูฟวี่ชื่อดัง (LC ในไทยโดย Luckpim)
และ สาวน้อยแสนหวานกับราตรีที่แสนสั้น มังงะจากนิยายแฟนตาซี (LC ในไทยโดยบงกช)
 
ฝากรูป
 
มาโคโตะใช้พลังกระโดดย้อนอดีตได้หลายครั้งจนกว่าผลลัพธ์ที่ออกมาจะเป็นไปตามที่หวังไว้
แต่ในโลกแห่งความจริงเมื่อเราตัดสินใจทำอะไรลงไปแล้ว เราต้องยอมรับผลลัพธ์ที่ตามมาไม่ว่ามันจะดีหรือร้ายยังไงก็ตาม
เราไม่ได้เล่นเกมที่พอตายแล้วจะเริ่มใหม่ ไม่ได้มีชีวิตหลายชีวิต ไม่มีไอเท็มพิเศษ
ถึงยังไงความผิดพลาดก็ไม่ได้เลวร้ายซะทีเดียวหรอก เพราะอย่างน้อยมันก็เป็นประสบการณ์ชีวิตให้เรา
ถึงจะไม่มีโอกาสกลับไปแก้ไขในคราวนี้ แต่เราก็เอาไว้เตรียมพร้อมกับปัญหาไม่ให้มันเกิดซ้ำได้
เวลาเป็นหนึ่งในสิ่งที่ไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน เพราะฉะนั้นเราควรระลึกไว้เสมอว่าเวลาเป็นสิ่งมีค่า
 
.
.
.
 
วลีเด็ดของเรื่องคือ "Time waits for no one" เวลาไม่เคยรอใคร
 
ฝากรูป
.
.
.
ส่งท้ายเอนทรี่ หลังจากดูเรื่องนี้จบออยก็ไปดูหนังอีกเรื่องต่อค่ะ เป็นเรื่องที่เพื่อนสปอยล์มาว่าสนุกกดดันมาก
และที่สำคัญหนุ่มหล่อ Justin Timberlake แสดงนำล่ะตัวเธอว์ (≧ω≦)
ฉากบู๊ระห่ำมันส์หยด แถมนางเอกของเรา Amanda Seyfried ก็เท่ห์ไม่แพ้กัน
In Time ล่าเวลาสุดนรก ให้ข้อคิดการใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ที่สุดเหมือนกัน
อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยที่ไม่ได้พยายามทำอะไรเลย
เรื่องนี้จะสอนถึงเรื่องการแบ่งชนชั้นและการเอาตัวรอดของมนุษย์ด้วย
มีท่าทีว่าจะมีภาคต่อ เพราะรู้สึกว่าการแก้ปัญหาของพระ-นางยังทำได้แค่ครึ่งทาง เป็นการแก้ปัญหาแค่เฉพาะหน้า
หรือจงใจจบแบบ Open Ending ก็ไม่รู้
 
ฝากรูป
Repost: 04.06.2012

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น