วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

โละการ์ตูนและนิยาย! ความทรงจำครั้งเยาว์วัย

ในที่สุดก็มาถึงวันนี้จนได้.. วันโละหนังสือการ์ตูนและนิยาย ! โอ้ วาระชาติเลยทีเดียว
แม่บอกให้เอาไปขายได้แล้ว เก็บไว้ก็ไม่ได้อะไร ม่ายยยยยย ตัดแม่ออกจากกองมรดก TT'
สาเหตุหลักๆ คือไม่มีที่จะเก็บแล้ว !
 
อันตัวเราก็คิดไว้นานแล้วล่ะว่าจะขายดีไหม สรุปว่าจะขายเรื่องที่จบแล้ว
คือใจลึกๆ มันก็รู้นะว่าวันนี้ต้องมาถึงสักวัน เราโตแล้ว จะขึ้นมหาลัยปีหน้าแล้ว อาจจะต้องไปอยู่หอ
ถึงจะไม่เลิกอ่านมังงะ แต่จะทิ้งไว้ให้ฝุ่นเกาะที่บ้านก็กระไรอยู่ ความเป็นผู้ใหญ่ทำให้รับได้ แต่ความเป็นโอตาคุมันคัดค้าน !
ออยสะสมมังงะหรือก็คือหนังสือการ์ตูนมาอย่างยาวนานมาก ตั้งแต่ ป.1 เพราะว่าออยมีพี่เป็นผู้ชาย ก็เลยอ่านตามพี่ 
ตอนนี้ออยอยู่ ม.6 นับดูก็สะสมมา 13 ปีแล้ววุ้ย
ความรู้สึกมันเสียดายแต่ต้องทำใจแข็งตัดใจให้ได้ ...ช่างทำได้ยากลำบากแท้เหลา
 
ออยรู้จักมังงะได้เพราะดูโมเดิร์นไนน์การ์ตูน (เชื่อว่าเด็กไทยเกินครึ่งประเทศแหกขี้ตาตื่นมาเพื่อดูช่องนี้สมัยยังเด็ก)
วันนึงพี่ชายซื้อมังงะมาอ่านที่บ้าน ด้วยความที่เราเป็นเด็กมีนิสัยรักการอ่าน ยกเว้นหนังสือวิชาการ 
อ่านทั้งวรรณกรรม ทั้งนิยายจนหมดบ้านและ พอไม่มีไรทำก็หยิบมังงะมาอ่านบ้าง เท่านั้นแหละ วางไม่ลงเลย..
เรื่องแรกที่สะสมคือมังงะในตำนานอย่าง Doraemon ตอนนั้นยังไม่โอตาคุ
พอเจอเรื่องสนุกหลายเรื่องเข้า ออยก็เลยเริ่มแปรพรรคจากอ่านนิยายมาอ่านมังงะ จากที่เคยสะสมนิยาย ก็มาสะสมมังงะ
 
ออยมาสะสมมังงะเยอะๆ ช่วงขึ้น ม.ต้น เพราะหน้าโรงเรียนมีร้านขายการ์ตูน ซื้อกลับวันละ 5-10 เล่ม
บางวันหิ้วกลับบ้านวันละ 20-30 เล่มก็มีบ่อยๆ
แบบเพื่อนๆ ทั้ง ม.ต้น-ม.ปลาย รู้กันทั้งห้องว่า อีนี่บ้าการ์ตูน
มีคนเคยบอกออยว่า "ไม่คิดว่าจะมีผู้หญิงน่ารักที่เป็นโอตาคุ" ซึ่งถ้าท่านได้มาคลุกคลีวงการนี้จะพบว่าหญิงเราไม่น้อยหน้าชายเลย
หลายคนถามว่า "พ่อแม่ไม่ว่าหรอ ?" แน่นอนว่ามีลูกแบบนี้พ่อแม่ที่ไหนก็ต้องว่าล่ะ orz
แต่ออยไม่สนิทกับพ่อ พ่อก็กึ่งตามใจลูก เลยได้แค่ว่าๆ บ้าง ไม่เด็ดขาดว่าห้ามซื้อห้ามอ่าน
แต่ช่วงสอบต้องแอบอ่านไม่ให้พ่อเห็นนะ ฮ่าๆ
ด้านแม่ไม่มีปัญหา เพราะแม่ขี้บ่นแต่ใจดี ตามใจลูกๆ ก็ไม่แปลกใจทำไมกูเสียคน
สรุปมังงะคือสิ่งที่เรียกได้ว่าโตมาด้วยกันเลยทีเดียว ผูกพันกับมันมาก
เป็นความทรงจำที่ออยจะไม่มีวันลืม จะอยู่ในใจตลอดไป.
 
อำลาอาลัย.. (TT___TT)
  
 
มังงะที่ยังไม่พรากจากกัน
 
ใครสนใจจะซื้อหนังสือมือสอง คอมเมนต์, ems. ไว้นะคะ
 
 
Repost: 07.05.2012

วันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

[Movie+Anime Review] The Avengers + From Up On Poppy Hill ป็อปปี้ ฮิลล์ ร่ำร้องขอปาฏิหารย์

สวัสดีคนที่ผ่านไปผ่านมาบนโลกไซเบอร์ เมื่อวานนี้ออยได้ไปดูหนังมา 2 เรื่องค่ะ จะมาร่ายรีวิว ให้อ่านกันตาแฉะ สนใจเรื่องไหนอ่านเรื่องนั้นเพราะมันยาว ถ้าไม่ขี้เกียจก็อ่านผ่านๆ ทั้งสองเรื่องก็ได้ค่ะ
 #เรื่องบน The Avengers เหล่าฮีโร่ชื่อดังพากันมากู้โลก , เรื่องล่าง From up on Poppy Hill หวานซึ้งตรึงใจความรักหลังสงคราม

The Avengers
เรื่องแรก ดูที่เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ปิ่นเกล้า “The Avengers” เหล่าฮีโร่แห่ง Marvel ยกขโยงกันมาบู๊ดะฉะมันส์ หนังที่น่าดูและเป็นที่กล่าวถึงมากที่สุดในตอนนี้ ก็โอเคค่ะ สนุกดี ไม่ประทับใจเท่าที่คิด หนึ่งในสาเหตุคือเคยดูเรื่องหลักฮีโร่แต่ละตัวสมัยยังเด็ก ลืมไปหมดเกลี้ยงแล้ว สำหรับคนที่ยังจำได้คงมีอรรถรสกว่านี้มาก ที่ยังพอจำได้ก็ Iron Man กับ Hulk นี่แหละ แล้วในเรื่องนี้พี่แกก็ทั้งเจ๋งทั้งฮา บทเด่นที่สุดต้องยกให้โทนี่ สตาร์คจริงๆ ค่ะ
ซึ่งฮีโร่ในชุดนี้ก็ประกอบไปด้วย Iron Man , The Incredible Hulk , Captain America , Thor , Hawkeye , Black Window ส่วนตัวร้ายที่แลดูกากๆ ก็น้องชายของ Thor นาม Loki (ในเรื่องพี่แกโดนยำเละพอตัว ..อาเมน)
เนื้อเรื่องก็ประมาณว่าหน่วย S.H.I.E.L.D องค์กรลับของอเมริกาได้ถูกโลกิขโมย The Cube ลูกบาศก์สีฟ้า ผลงานวิจัยของหน่วยชีลด์ไปเพื่อให้ตนมีพลังไร้ขีดจำกัดและทำลายล้างโลกเพราะทะนงว่าตนเป็นเทพเหนือกว่ามนุษย์ Nick Fury ผู้นำหน่วยชีลด์จึงปิ๊งไอเดียคิดสร้างโปรเจ็คต์ The Avengers รวมฮีโร่มาเอาลูกบาศก์คืนเพื่อช่วยกู้โลก แต่ปัญหาคือฮีโร่แต่ละคนมีความแตกแยกไม่ลงรอยกันตามประสา “ฮีโร่ฉายเดี่ยว” แล้วจะกู้โลกกันอย่างไรต้องไปตามดูกันเอง
ในเรื่องหน่วยชีลด์จะมีฐานทัพเป็นยานลำเบ้งสุดเจ๋งที่นอกจากเหาะได้แล้วยังพลางตัวได้อีก ดูๆ ไปก็เหมือนเอาเรือประจัญบานจากเรื่อง Battleship ที่บูมสุดๆ ก่อนเรื่องนี้มาผสมนะ (อยากบอกว่าประทับใจแบทเทิ่ลชิปมากกว่าดิอเวนเจอร์สซะอีกแหน่ะ) หนังในช่วงแรกน่าเบื่อเพราะต้องอธิบายโน่นนี่เยอะ พูดมากนั่นเอง แต่ก็ยังมีมุกแทรกเป็นระยะคลายเบื่อได้บ้าง ส่วนไคลแม็กซ์ก็จัดว่าทำได้ตื่นตามันส์พอสมควร แต่มันก็สู้กันแบบตัวใครตัวมัน ไม่ได้สามัคคีอะไรกันอย่างที่ควรจะเป็น แต่ฮีโร่บางคนก็แลดูกากเหลือเกิน ไม่ขอเอ่ยนาม แล้วแต่ท่านจะดูแล้วคิดเอง (-_-)> ส่วนเรื่องเอฟเฟ็กต์ก็เทพอย่างไม่ต้องสงสัยค่ะ มาร์เวลขายความเท่ของเหล่าฮีโร่ได้มากพอสมควร สิ่งที่หนุนเรื่องนี้ให้ขายดีก็ความดังอยู่แล้วจากภาคหลักน่ะแหละ ตอนเอนด์เครดิทมีการทิ้งท้ายว่าต้องมีภาคต่อแต่ก่อนหน้านี้คงมีภาค 2-3 ของฮีโร่แต่ละตัวก่อนแน่นอน

From up on poppy hill

มาถึงเรื่องที่สอง ฉายเฉพาะที่ Apex Lido , Scala Theatre โรงหนังสยามเท่านั้นนะคะ “From Up On Poppy Hill” หรือในชื่อไทยว่า “ป็อปปี้ ฮิลล์ ร่ำร้องขอปาฏิหารย์” อนิเมชั่นจาก Studio Ghibli ที่สร้างสรรค์เรื่องราวสุดน่าประทับใจมานับแล้วไม่ถ้วน ถือเป็นอีกหนึ่งความน่าภูมิใจของชาวญี่ปุ่นเลยทีเดียว โดยเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากมังงะของ Tetsuo Sayama และ Chizuru Takahashi เขียนโดย Hayao Miyazaki กำกับโดย Goro Miyazaki และคว้ารางวัล Tokyo Anime Awards 2012 ไปแล้ว 3 รายการ
เนื้อเรื่องได้ย้อนไปยังปี 1963 หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ณ โยโกฮาม่า มัตสึซากิ ยูมิ (อูมิ) อายุ 16 ปี ลูกสาวคนโตผู้ขยันขันแข็ง มีหน้าที่รับผิดชอบงานจิปาถะภายในบ้านที่เคยเป็นโรงพยาบาลมาก่อน ทุกๆ เช้ายูมิจะออกมาชักธงสัญญาณขึ้นเสา เพื่อรำลึกถึงพ่อที่เป็นกัปตันเรือ แต่ได้จากไปในสงครามเกาหลี พ่อบอกว่าธงจะเป็นเครื่องหมายบอกทางให้พ่อกลับมาบ้านถูก เธอยังคงทำมันทุกวันแม้ว่าพ่อจะไม่กลับมาหลายปีแล้วก็ตาม วันหนึ่งได้มีบทความสั้นๆ เกี่ยวกับการชักธงสัญญาณของยูมิในหนังสือพิมพ์โรงเรียนโคนันที่เธอเรียนอยู่ แต่ไม่บอกว่าใครเขียน และเธอก็บังเอิญได้รู้จักกับ คาซาม่า ชุน ชายหนุ่มอายุ 17 ปี โรงเรียนเดียวกัน เขาเป็นบรรณนาธิการชมรมหนังสือพิมพ์ ซึ่งในขณะนั้นมีปัญหาเรื่องที่ตึกชมรมชื่อ Quartier Latin จะถูกทุบทิ้งสร้างใหม่เพราะปีหน้าญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก เหล่าสมาชิกชมรมไม่ยอมเพราะตึกเก่าแก่นี้เต็มไปด้วยความทรงจำต่างๆ แต่นักเรียน 80% เห็นว่าควรจะสร้างตึกใหม่ที่สวยงามแทนตึกโบราณคร่ำครึผุพัง ทำให้เกิดการแตกแยกกันในโรงเรียน ยูมิจึงออกไอเดียให้ทำความสะอาดตึกให้เหมือนใหม่ พวกนักเรียนที่เห็นด้วยจึงมาช่วยกันซ่อมแซมตกแต่งตึกขนานใหญ่กัน ระหว่างนั้นยูมิกับชุนก็สนิทกันมากขึ้นและเกิดเป็นความรัก แต่กลับมีปัญหาใหญ่รอพวกเขาอยู่
ซึ่งชื่อเรื่องภาษาไทย “ร่ำร้องขอปาฏิหารย์” ก็หมายถึงอุปสรรคความรักของยูมิกับชุนนี่แหละ ตอนแรกอ่านเรื่องย่อนึกว่าชื่อเรื่องจะเกี่ยวกับพ่อ-ลูกซะอีก ส่วนชื่อภาษาอังกฤษกับญี่ปุ่น From up on Poppy Hill , Kokuriko-zaka Kara จะสื่อถึงการสิ้นสุดสงครามมากกว่า Kokuriko หรือ Poppy คงจะหมายถึงดอกป็อปปี้สีแดงซึ่งมีความหมายถึงทหารกล้า (ในสงครามโลกครั้งที่ 2) ให้เรารำลึกถึงความเสียสละของพวกเขาเหล่าทหารผ่านศึก
เรื่องนี้เป็นอนิเมะดราม่าที่เรียกน้ำตาคนเซ้นซิทีฟอย่างออยได้ไม่ยากเลย โดยเฉพาะช่วงกลางเรื่องตอนที่ชุนกับยูมิเริ่มมีปัญหากันนี่กดดันมากค่ะ แต่ตอนจบสำหรับหลายคนอาจจะคิดว่า “กะไว้แล้ว” ไม่น่าแปลกใจ ไม่ลุ้นเลย แต่ออยว่าจุดนี้ไม่ใช่เรื่องที่เราต้องสนใจ เพราะตามสไตล์จิบลิมันต้องจบแบบโลกสวยอยู่แล้ว สิ่งที่ควรดูคือการดำเนินเรื่องราว ตัวเรื่องจะแฝงไปด้วยความอบอุ่นและงดงามค่ะ สะท้อนถึงความเหงาหลังสงครามโลก และความเข้มแข็งที่ต้องสู้ต่อ บรรยากาศฟีลกู๊ดยังคงกรุ่นกลิ่นอายจิบลิเหมือนเคย สรุปแฟนๆ จิบลิหรือคนที่ชื่นชอบหนังแนวดราม่าและบรรยากาศดีๆ แม้จะไม่ชอบ 2D ก็ไม่ควรพลาดเลยล่ะ
อันนี้ภาพปกหนังที่ถ่ายมาจากลิโด้ ออยชอบชื่อเรื่องภาษาไทยนะ แบบรู้เลยว่าหนังต้องเป็นแนวไหน
ป็อปปี้ฮิลล์
Ps1. หนังที่ดู 2 เรื่องนี้ ออยประทับใจป็อปปี้ฮิลล์มากกว่าค่ะ (ดูจากรีวิวก็น่าจะรู้ เรื่องบนรีวิวอย่างเกรียน //ฮา)
Ps2. พร่ำยาวซะเมื่อยนิ้วมือหงิกเลย (พิมพ์ใน iPhone ซะด้วย เอารูปมาลงทีหลัง = =)
Ps3. เดี๋ยวจะซื้อเรื่อง Osamu Tezuka no Buddha / บุดดะ เจ้าชายที่โลกไม่รัก (ชื่อไทยเฟลค่ะ) มาดู แล้วว่างๆ จะมารีวิวให้อ่านค่ะ เรื่องนี้เข้าฉายที่ลิโด้ปลายปีที่แล้ว แต่ออยไม่มีโอกาสไปดูเพราะฉายช่วงน้ำท่วม orz
Osamu Tezuka no Buddha


Repost: 03.05.2012

วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

[Manga Review] สำนักรั่ว! แมนเกินร้อย


สำนักรั่ว! แมนเกินร้อย
 
ชื่อภาษาญี่ปุ่น : Kouha! Terakoyajuku [硬派! 寺子屋塾]
ผู้แต่ง/วาด : SAKURAI Shushushu
สำนักพิมพ์ : Luckpim Publishing
Genre/Rate : Shounen Ai 15+
สถานะ : 1 เล่ม (ยังไม่จบ)
 
 
 
:: คำโปรยปกหลัง ::
 
เนื้อหาห้าหลักสูตรสำนักเทราโคยะ
หนึ่ง : สำนักไดโตเกียวเทราโคยะ คือสถาบันฝึกอบรมบุคลากรชั้นแนวหน้า ซึ่งตั้งขึ้นเพื่อขัดเกลาจิตวิญญาณลูกผู้ชาย และ วิถีบุชิโด
สอง : คันนางิ ไร พระเอกของเรื่อง ผู้มาเข้าเรียนที่สำนักนี้ตามคำสั่งเสียของปู่
สาม : มันโดโคโระ คาเงซึกุ ผู้เกลียดขี้หน้า ไร ซึ่งเป็นนักเรียนใหม่ ได้วางกับดักสารพัดอย่างเพื่อเล่นงานไร
สี่ : ด้วยความช่วยเหลือของหัวหน้าห้อง ไดงูจิ ทาคุยะ ทำให้ไรเอาตัวรอดจากวิกฤตการณ์มาราธอนผ้าเตี่ยวมาได้
ห้า : แต่ทว่า ในการเข้าค่ายเซอร์ไววอลนรก กับดักของมันโดโคโระก็แผลงฤทธิ์ขึ้นอีกครั้ง...!!
 

 
:: เรื่องย่อตอนที่หนึ่งฉบับสรุปเอง ::
 
          คันนางิ ไร ชายหนุ่มผู้ที่ทำอะไรไม่ได้เรื่องสักอย่าง กลับต้องเข้ามาเรียนในสถาบันชายล้วนชั้นนำที่มีแต่ลูกคนรวยมากความสามารถมาเรียน "สำนักเทราโคยะ" ตามคำสั่งเสียของปู่ที่ตายไป แต่สถาบันแห่งนี้มีกฎประหลาดว่า เครื่องแบบของนักเรียนจะต้องเป็นฮากามะและผ้าเตี่ยวเท่านั้น...!? แถมเพราะความป๊อปของเขาทำให้ มันโดโคโระ คาเงซึกุ อิจฉา จึงวางแผนจ้าง อิงะ โทบิมารุ ไปทำให้ไรอับอายในวิชาพละที่ต้องนุ่งผ้าเตี่ยวผืนเดียววิ่งนอกโรงเรียน แต่ไรก็ได้ ไดงูจิ ทาคุยะ หัวหน้าห้องผู้เงียบขรึมช่วยเหลือจนสามารถรอดมาได้ (รายละเอียดไม่อยากสปอยล์ค่ะ มันฮาม๊ากกกก) ทั้งคู่ได้มาเป็นรูมเมทห้องพักเดียวกัน ไรเริ่มรู้สึกดีกับทาคุยะ แต่กลับรู้สึกถึงกำแพงบางอย่างที่กั้นพวกเขาเอาไว้ ซึ่งก็คือเรื่องราวในอดีตอันเป็นปริศนาของทาคุยะ
          ตอนที่หยิบหนังสือเล่มนี้เพราะปกสวยดีค่ะ แล้วก็มาคุ้นลายเส้น เลยจดชื่อนักเขียนไปเสิร์ชในเน็ต พอรู้ว่าเป็นของ อ.ซากุไร เลยลองอ่านเรื่องย่อภาษาอังกฤษดู แล้วพบว่าเป็นการ์ตูนโชเน็นไอดีๆ นี่เอง แปลกใจนิดๆ เพราะส่วนใหญ่การ์ตูน Y น้อยมากที่จะมี LC ในไทย เลยลองซื้อมาอ่านดู ตอนนี้ที่ญี่ปุ่นก็ออกมาหนึ่งเล่มเท่ากัน เพื่อนผู้ชายที่ ร.ร บ่นว่าเซ็งมาก ตอนซื้อนึกว่าเป็นการ์ตูนบู๊+แก๊ก (ประมาณแนวกินทามะ) เพราะคำโปรยหลังปกก็ไม่มีตรงไหนสื่อว่าเป็นการ์ตูน Y ปกก็ไม่ Y แต่เนื้อในนั้นยากแท้หยั่งถึง แถมราคาตั้ง 65.- ...ไว้อาลัยแก่สาย Normal อาเมน... orz
 

 
:: แนะนำตัวละคร ::
 
 
คันนางิ ไร
อุเคะของเรา นิสัยธรรมดามาก มีความรู้สึกเป็นผู้เป็นคนที่สุดในเรื่อง
เพราะรู้สึกขัดแย้งเรื่องการนุ่งผ้าเตี่ยวกับหลักสูตรการเรียนมึนๆ เลยพ่วงบทตัวตบมุกไปโดยปริยาย
บางทีอาจารย์ก็วาดไรคุงเท่ห์มากจนเผลอคิดว่าเธอเป็นเมะ แต่บางคราวก็หน้ายั่วน่ารักสุดๆ
 
 
 
 
ไดงูจิ ทาคุยะ
เซเมะที่พึ่งพาได้ เป็นคนจริงจัง เถรตรง เงียบขรึม
เพราะแบบนั้นแหละถึงไม่เข้ากับชุดผ้าเตี่ยวสุดๆ แต่พี่แกก็ชอบใส่ที่สุด =_="
มีปริศนาในอดีตที่แบกรับเอาไว้อยู่และยังไม่เปิดเผย
 
 
 
 
มันโดโคโระ คาเงซึกุ
ตัวก่อกวนประจำเรื่อง บ้าๆ บอๆ หลงตัวเอง ไม่ชอบให้คนอื่นเด่นเกินตัวเอง
วันๆ ไม่ทำอะไรเอาแต่คิดแผนแกล้งไร ความจริงแอบชอบทาคุยะ แต่ซึนไม่ยอมรับ
 
 
 
 
อิงะ โทบิมารุ
นักเรียนที่โดนไล่ออกไป แต่ถูกมันโดโคโระจ้างมาก่อกวนไร
มีความสามารถในการปลอมตัวเป็นคนอื่น ดูเจ้าเล่ห์และมีปริศนาอยู่
 
 
 
 
อาจารย์ใหญ่โคเรโด เท็ตโช (ขวา)
เป็นอาจารย์ที่คอยมองดูลูกศิษย์เติบโตอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ รู้ปริศนาบางอย่างเกี่ยวกับสำนักเทราโคยะในอดีต
ส่วนข้างซ้ายเป็นอาจารย์ตัวประกอบไม่ต้องสนใจค่ะ ฮ่าๆๆ
 
 
 
 
มิคุริยะ
หนุ่มน้อยสุดโมเอ้บทน้อยนิด เป็นเพื่อนของไร บ้านรวยมาก
เหมาะกับบทตัวประกอบเกินคาด บางทีเวลาอยู่กับไร ดูเหมือนคู่ [ไรXมิคุริยะ] สุดๆ
 

 
:: สปอยล์รูป ::
 
เปิดมาเจอภาพสีของเคะหลังปก (ภาพออกแนวบู๊สวนทางกับเนื้อหามากค่ะ orz)
 
 
 
 
ฉากที่กำลังซึ้งค่ะ แต่มีหมาต๋ามาขัดซะงั้น (ถึงจะซึ้งแต่พอมองผ้าเตี่ยวแล้วซึ้งไม่ออกค่ะ =[]=)
 
 
 
ความจริงฉากนี้ไม่มีอะไร เพราะเรื่องนี้เรทโชเน็นไอ แต่ปิดช่องคำพูดเอาไว้จิ้นเล่นๆ ค่ะ ;)
 
 
 
เมื่อเอาสายคาดปกออกคุณจะพบกับความเป็นชายที่แท้จริง !?
 
 
 

 
:: คะแนน ::
 
เนื้อเรื่อง : 7/10 
- เป็นการ์ตูนที่อ่านแล้ว "ขำก๊ากกกก" จริงๆ ไอ้ที่มันฮาก็ตรงผ้าเตี่ยวนี่แหละ ไม่ว่าบรรยากาศจะซีเรียสหรือโรแมนติกแค่ไหน พอเห็นไอผ้าเตี่ยวนี่ก็หมดมู้ดหลุดฟีลได้เรื่อยๆ แถมยิ่งตัวละครทำหน้าซีเรียส สภาพนุ่งผ้าเตี่ยวก็ฮามากขึ้นไปอีก ไม่รู้อาจารย์แกจะสื่ออะไร ถึงเอาผ้าเตี่ยวมายำพระเอกขนาดนี้ ท่อนบนหล่อลาก ท่อนล่าง... (เติมคำในช่องว่างเอาเองละกัน)
- การ์ตูนเล่มนี้คงจะทำเป็นเรื่องยาวมากไม่ได้ เพราะไม่ค่อยมีจุดเชื่อมต่อ ตอนนี้เรื่องที่น่าติดตามมีแค่ปริศนาในอดีตของแต่ละคน กับ ปริศนาตัวละครใหม่อยู่ ซึ่งดูจากเนื้อผ้าแล้วปริศนาคงจะปมไม่ใหญ่เท่าไหร่ ก็มันเป็นการ์ตูนเบาสมองนี่นา
- เนื้อหาก็เรื่อยๆ เนิบๆ จบในตอน ให้อารมณ์การ์ตูนแก๊กค่ะ อ่านได้เรื่อยๆ คลายเครียด
 
ตัวละคร : 7/10
- อุเคะ ผู้ชายธรรมดาที่เป็นตัวตบมุก (บางทีก็ควบตำแหน่งตัวรับ-ส่งมุกกับเมะ) เป็นคนผูกตัวละครอื่นๆ เข้าด้วยกัน เบื้องหลัง (น่าจะ) ไม่มีปริศนาอะไร
- เซเมะ [ตัวเล่นมุกหน้าตาย] ไม่รู้พี่แกจะบ้าบอคอแตกไปไหน คลั่งไอ้กฎผ้าเตี่ยวซะเหลือเกิน ดูเหมือนเบื้องหลังจะมีปัญหาชีวิตใหญ่ทีเดียว เป็นอุปสรรคความรักได้นิดๆ
- ตัวประกอบหลักๆ มีอยู่ไม่กี่คนค่ะ แถมเด่นๆ ยังมีแค่ 2-3 คน เอาไว้เป็นตัวฮากับตัวตามน้ำ มีปริศนาในอดีตของ ผอ. เป็นปมให้เอาไปคาใจเล่นๆ ตอนจบเล่มหนึ่งมีตัวประกอบปริศนาโผล่ออกมา 2 คน (ดูจากบทแล้ว คาดว่าไม่นานก็คงจากไป)
 
ภาพ : 8/10
- ลายเส้นบางๆ สวยดีค่ะ แต่ถ้าใครชอบเคะหน้าหวานคงทำให้ผิดหวังนิดหน่อย เพราะตามลายเส้นอาจารย์ ผลงานหลายเรื่องเคะหน้าเกือบแมนค่ะ (แต่บางทีเคะทำหน้าซึนน่ารักมากกก)
- ไม่รกมาก อ่านแล้วสบายตาดี
 
 
 
[ คะแนนรวม : 7/10 ]
Repost: 19.02.2012